- Investment
- Blog
มารู้จัก Webull – อีกหนึ่ง Trading App ระดับสากลที่เราอยากให้ลอง
สามารถเข้าถึงเครื่องมือดีๆ ก่อนใครเพียงสมัครสมาชิกที่ Ko-fi

Sheet ดู EMA หลายหุ้นพร้อมกัน
✅ เฉพาะสมาชิกเท่านั้น

Sheet ต้นทุน USD (FCD & ทอง)
✅ เฉพาะสมาชิกเท่านั้น

Sheet เช็คสุขภาพทางการเงินง่ายๆด้วยตัวเอง
✅ กราฟประกอบให้ดูเข้าใจง่ายแบบจัดเต็ม

กองไหน ค้นหา/บันทึกกองทุน
✅ สมาชิกเข้าถึงฟังก์ชันไม่จำกัด

Investment Port V2.1
แก้สูตร yahooF กรณีค่าไม่ขึ้น
สิทธิ์พิเศษในเว็บการ์ดคำศัพท์การเงิน
coming soon...



หลายคนอาจจะคุ้นชื่อกับแอปสีฟ้า ๆ ที่ชื่อว่า Webull กันมาบ้าง
บางคนอาจจะเห็นเพื่อน ๆ ในต่างประเทศใช้ บางคนอาจเคยเห็นโฆษณา หรือบางคนอาจสงสัยว่ามันต่างจากแอปเทรดทั่วไปอย่างไร น่าสนใจที่จะลองมาแบ่งพอร์ตหรือย้ายค้ายมาในนี้ไหม
วันนี้เราเลยอยากพามารู้จัก Webull แบบละเอียด ว่าทำอะไรได้บ้าง มีจุดเด่น จุดน่าสนใจตรงไหน เหมาะกับใคร ภาษีจัดการยังไง และมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
เทรดอะไรได้บ้าง
สิ่งแรกที่หลายคนอยากรู้คือ Webull เทรดอะไรได้บ้าง สามารถเทรดสินทรัพย์หลัก ๆ ดังนี้:
- หุ้นอเมริกา
- ออปชันอเมริกา
- ETF
รูปแบบการซื้อขาย
Webull ออกแบบมาให้เข้าถึงง่าย แม้จะมีเงินเริ่มต้นไม่มากก็ตาม
- เริ่มต้นเทรดได้เพียง $1 (~30 บาท ก็ซื้อหุ้นได้แล้ว)
- รองรับการซื้อหุ้นแบบเศษส่วน (Fractional Shares) ซื้อขั้นต่ำแค่ 0.0001 หุ้น
- เทรดได้เกือบ 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ สำหรับหุ้นเต็มหน่วยเท่านั้นนะ
- มองเห็นแรงซื้อ–แรงขายแบบละเอียดด้วย Level 2 Quotes ที่โชว์ 50 ระดับราคาซื้อและขาย ให้ข้อมูลเชิงลึกกว่าการดู Bid–Ask ปกติ ในโบรกทั่วไป
- ไม่ติด Pattern Day Trader (PDT) สำหรับพอร์ตต่ำกว่า $25,000 ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีมากสำหรับคนที่เทรดบ่อย ๆ แต่เงินลงทุนยังไม่ถึงเกณฑ์
- ส่งคำสั่งได้หลากหลาย Limit, Market, Stop, Stop Limit, Tailing Stop
ไม่ต้องเฝ้าสามารถ Take Profit/Stop Loss (คำสั่งมีผล 90 วัน)
ค่าคอมมิชชัน
- หุ้น/ETF: 0.10% ของมูลค่าการซื้อขาย (ไม่มีขั้นต่ำ)
- ถ้าเทรดช่วง Overnight (20:00–04:00 EST) จะคิดที่ 0.15% แทน
- Options: $0.55 ต่อสัญญา
คนเทรดบ่อยถือว่าโออยู่นะลองเทียบกันดู
ฟีเจอร์เด่น
สิ่งที่ทำให้ Webull น่าสนใจ ไม่ได้มีแค่เรื่องค่าธรรมเนียม แต่ยังมีเครื่องมือที่ครบ เราเอาที่เด่นๆมาให้ลองดูกัน
- เครื่องมือวิเคราะห์ระดับมืออาชีพ มีทั้งกราฟ อินดิเคเตอร์ สาย Technical Analysis ใช้งานได้สะดวก
- เทรดบน Desktop ได้ เห็นกราฟแบบเต็มตา
- ฟีเจอร์ DCA (Dollar-Cost Averaging) แบบฟรีค่าคอมมิชชันด้วย!
- Dynamic DCA ที่จะปรับจำนวนเงินลงทุนตามสภาวะตลาด (อิงเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ MA)
คู่มือ
- DRIP (Dividend Reinvestment Plan) — ปันผลที่ได้จะถูกนำไปซื้อหุ้นเดิมให้อัตโนมัติ
- Sage Tracker ฟีเจอร์สำหรับติดตามการซื้อขายของสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ เช่น Berkshire Hathaway, BlackRock ฯลฯ
เรื่องภาษี
น่าจะเป็นคำถามของหลายคน
- เราสามารถ Export รายการเทรด/ปันผลทั้งหมดออกมาได้ แล้วนำไปคำนวณ (ใครอยากได้ชีทจาก money toolkit ไหม? 555)
ความน่าเชื่อถือ
- อยู่ภายใต้การกำกับของ สำนักงาน ก.ล.ต.
- ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง
การโอนหุ้นเข้ามา
- ไม่มีค่าธรรมเนียมฝั่งรับ (ฝั่ง Webull)
- แต่โบรกเกอร์ต้นทางจะเก็บค่าธรรมเนียม $50–75 ต่อ Symbol (และสามารถโอนเฉพาะหุ้นเต็มหน่วย)
เหมาะกับใคร
- สายเทรดสั้น เน้นความเร็ว: คนที่ต้องการข้อมูลเรียลไทม์ เพื่อซื้อขายทันที เวลาที่ต้องซื้อ/ขายต้องได้ซื้อ/ขายเพราะตลาดมันเร็วมาก ทุกนาทีมีความหมาย (จริงๆควรเป็นมาตราฐาน) Webull ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ และ โปรตอนนี้ก็เอาเรื่อง ดูบอลได้เทรดหุ้นด้วยจะฟินขนาดไหน
- นักลงทุนมือใหม่หรือระยะยาว: ฟีเจอร์ DCA ฟรีค่าธรรมเนียม น่าสนใจมาก โดยเฉพาะคนที่เน้นการลงทุนแบบทยอยสะสม
โปรโมชันช่วงนี้
Webull ยังจัดโปรแรง ๆ สำหรับนักลงทุนใหม่:
- เปิดบัญชีเงินฝาก USD รับดอกเบี้ย 4% ต่อปี จ่ายรายเดือน ไม่มีเพดาน
- ฝากเกิน $10,000 เทรดฟรีค่าคอมมิชชัน 90 วัน
- ฝากเงินวันนี้ รับสิทธิ์ดู พรีเมียร์ลีกฟรี 30 วัน [กดมาแล้ว]
- ถ้าฝาก 50,000 บาทขึ้นไป และคงเงินไว้ จะได้โค้ดดูบอลทั้งฤดูกาล (ใช้เงินเทรดได้อิสระ) กำไร/ขาดทุนไม่กระทบกับยอดฝากจนกว่าจะถอน
สรุป
Webull เป็นแพลตฟอร์มเทรดที่ ครบเครื่อง ใช้ง่าย และต้นทุนไม่สูง
ตอบโจทย์ทั้งนักลงทุนสายเทรดสั้นที่เน้นความเร็ว และสายลงทุนระยะยาวที่ชอบสะสมหุ้นแบบ DCA
บวกกับโปรโมชันที่แรงในช่วงนี้ ยิ่งทำให้ Webull เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าจับตามองมาก ๆ
ใครที่มองหาทางเลือกใหม่สำหรับการลงทุนต่างประเทศ เสถียร
Webull อาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ
ใครที่อยากดูรายละเอียดหรือสมัคร
👉 สมัคร webull
อ้างอิง
https://www.webull.co.th/
